วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 15

วิชา   การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์ศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

Science Experiences Management for Early Childhood

อาจารย์ผู้สอน   อาจารย์จินตนา   สุขสำราญ

วันที่  2   ธันวาคม   พ.ศ. 2557

เวลาเรียน   08.30 - 12.20   น.

เวลาเข้าเรียน   08.30   น.    

เวลาเข้าสอน   08.30   น.   เวลาเลิกเรียน   12.20   น.


กิจกรรมในวันนี้

          วันนี้อาจรย์ได้ให้คนที่ยังไม่ได้นำเสนอวิจัยและโทรทัศน์ครูออกมานำ

เสนอทั้งหมด







          ในวันนี้ดิฉันก็ได้ออกมานำเสนอวิจัยด้วย ซึ่งวิจัยที่ออกมานำเสนอ คือ 

เรื่อง ผลของการจัดประสบการณ์แบบปฏิบัติการทดลองประกอบอาหารกับ

แบบปกติที่มีต่อทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย





          หลังจากที่ทุกคนนำเสนอกันเสร็จแล้วนั้นอาจารย์ก็ให้ทำกิจกรรมอีกหนึ่ง

อย่าง การทำแผ่นพับที่มีหัวข้อว่า " สารสัมพันธ์บ้านโรงเรียน " ซึ่งเป็นกิจกรรม

กลุ่มใช้กลุ่มเดิมคือกลุ่มที่เขียนแผนร่วมกันโดยมีหัวข้อดังนี้

- ชื่อและสัญลักษณ์ของโรงเรียนชื่อเด็กและครูประจำชั้น

- สิ่งที่ต้องการขอความอนุเคราะห์จากท่านผู้ปกครองและวัตถุประสงค์

- สาระน่ารู้เกี่ยวกับหน่วยที่เขียน

- แบบฝึกหัดที่ทำได้ในแผ่นพับ

- เพลง คำคล้องจอง

- ชื่อผู้จัดทำ





การนำไปประยุกต์ใช้

     - เราสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากอาจารย์ในเรื่องของงานวิจัยมาใช้ได้ใน

อนาคต ซึ่งอาจารย์สอนในเรื่องของตัวแปรต้นตัวแปรตามว่าคืออะไร การ

เลือกวิจัยที่เหมาะสมและวิธีการทำวิจัยที่ถูกต้อง ทำให้เราได้รับความรู้เพิ่มเติม

มากยิ่งขึ้น

การประเมินตนเอง

     - วันนี้ตั้งใจเรียนดี สนใจในสิ่งที่อาจารย์สอนและให้ทำกิจกรรมสามารถทำ

กิจกรรมที่อาจารย์มอบหมายให้เป็นอย่างดี

การประเมินเพื่อน

     - วันนี้เพื่อน ๆ ตั้งใจเรียนดีมาก สนใจในสิ่งที่อาจารย์บอกสอนและมีการจดบัน

ทึกความรู้ที่ได้รับ

การประเมินอาจารย์

     - อาจารย์สามารถอธิบายความรู้ให้นักศึกษานั้นเข้าใจได้ และสามารถยก

ตัวอย่างที่ง่ายต่อความเข้าใจ และมีกิจกรรมที่นำมาช่วยสอนในเรื่องวิทยา

ศาสตร์ให้กับนักศึกษาถือเป็นการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ

******************************************************************

 สรุปวิจัย

        วิจัยเรื่อง ผลของการจัดประสบการณ์แบบปฏิบัติการทดลองประกอบ

อาหารกับแบบปกติที่มีต่อทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

ของวไลพร   พงษ์ศรีทัศน์  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  ประสานมิตร

          การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาผลของการจัดประสบการณ์แบบปฏิบัติการ

ทดลองประกอบอาหารและแบบปกติที่มีต่อทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของ

เด็กปฐมวัยและเพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่

ได้รับการจัดประสบการณ์แบบปฏิบัติการทดลองประกอบอาหารกับวิธีการจัด

ปรสบการณ์แบบปกติ  

นิยามศัพท์เฉพาะ

          1. เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กอายุ 4 – 5 ปีที่กำลังศึกษาในชั้นอนุบาลปีที่ 1 

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2532 โรงเรียนสาธิตในสังกัดกรมการฝึกหัดครู

          2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการปฏิบัติ

และฝึกฝนกระบวนการทางความคิดในการค้นคว้าหาความรู้และแก้ปัญหา ซึ่งประกอบ

ไปด้วยทักษะเบื้องต้น 6 ทักษะ ได้แก่

    2.1 ทักษะการสังเกต หมายถึง ความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัสอย่าง

ใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวกายไปสัมผัสโดยตรง

กับวัตถุหรือเหตุการณ์โดยมีจุดประสงค์ที่จะรวบรวมข้อมูลซึ่งเป็นรายละเอียดของสิ่ง

นั้น ๆ 

    2.2 ทักษะการจำแนก หมายถึง ความสามารถในการจัด แบ่ง หรือเรียงลำดับ

วัตถุหรือสิ่งของที่มีอยู่ให้เป็นหมวดหมู่

    2.3 ทักษะการวัด หมายถึง ความสามารถในการใช้เครื่องมือง่าย ๆ วัดสิ่งต่าง ๆ 

ได้อย่างถูกต้อง โดยใช้หน่วยการวัดที่อาจจะเป็นมาตรฐานหรือไม่มาตรฐานหรือบางครั้ง

อาจไม่มีหน่วยการวัดกำกับก็ได้

              2.4 ทักษะการสื่อความหมาย หมายถึง ความสามารถในการนำข้อมูลที่ได้จาก

การสังเกต การวัด และการทดลองมาจัดให้สัมพันธ์กันมากขึ้นจนง่ายต่อการแปลความ

หมายและสื่อความหมายให้บุคคลอื่นเข้าใจโดยใช้คำพูดหรือรูปภาพ

              2.5 ทักษะการลงความเห็น หมายถึง ความสามารถในการสรุปความคิดเห็นที่

ได้จากข้อมูล จากการสังเกตหรือการทดลองได้อย่างถูกต้อง

              2.6 ทักษะการหามิติสัมพันธ์ หมายถึง ความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัส

อย่างใดอย่างหนึ่งในการหาความสัมพันธ์ระหว่างมิติต่าง ๆ เช่น สถานที่ รูปทรง ขนาด 

ตำแหน่ง พื้นที่ เป็นต้น

          3. การจัดประสบการณ์แบบปฏิบัติการทดลองประกอบอาหาร หมายถึง กิจกรรม

ที่จัดให้ผู้เรียนได้ใช้ประสาทสัมผัสทุกด้านในการเรียนรู้ คือ การมองเห็น การสัมผัส 

การชิมรส การดมกลิ่น และการฟัง โดยผู้วิจัยเป็นผู้สร้างแผนการจัดประสบการณ์ทด

ลองประกอบอาหารขึ้นซึ่งแผนการจัดประสบการณ์นี้ประกอบ

ไปด้วยความคิดรวบยอด เนื้อหา วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมสื่อการเรียน

การสอนและวิธีการประเมินผลสำหรับขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมนั้นสามารถแบ่งออก

ได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้

    3.1 ขั้นเตรียม เป็นการนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการสนทนา ถามคำถาม ตั้งปัญหา 

ใช้เพลงคำคล้องจองหรือสื่ออย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ

    3.2 ขั้นปฏิบัติการ นักเรียนปฏิบัติการทดลองประกอบอาหารโดยใช้ประสาท

สัมผัสทั้ง 5 ในการเรียนรู้

    3.3 ขั้นสรุป โดยครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเพื่อนำไปสู่การสรุปผลที่ได้จาก

การปฏิบัติการ

     4. การจัดประสบการณ์แบบปกติ หมายถึง การจัดกิจกรรมหรือการจัดประสบ

การณ์ตามกระบวนการที่ระบุไว้ในแผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ของสำนัก

งานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2530 ฉบับทดลองโดยใช้สื่อการเรียน

และการประเมินผลตามที่ระบุไว้ในแต่ละกิจกรรมในแผนการจัดประสบการณ์ดังกล่าว 

สำหรับขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมนั้นสามารถแบ่งออกได้ 3 ระยะดังนี้

    4.1 ขั้นนำ เป็นการนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการสนทนา ถามคำถาม ตั้งปัญหา

 ใช้เพลงคำคล้องจองหรือสื่ออย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ

    4.2 ขั้นสอน เป็นการนำเอาวิธีสอนโดยการอธิบาย การเล่านิทาน การศึกษา

นอกสถานที่ การอภิปราย การสาธิต การเล่นเกม และการปฏิบัติการเข้ามาใช้ในการ

ศึกษาข้อมูล

    4.3 ขั้นสรุป เป็นการสรุปผลภายหลังจากการอธิบาย การเล่านิทาน การศึกษา

นอกสถานที่ การอภิปราย การสาธิต การเล่นเกม และการปฏิบัติการโดยครูและนัก

เรียนร่วมกันสนทนาสรุป

5. แบบทดสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง ชุดของข้อคำถาม

และการปฏิบัติที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งเป็นคำถามและการปฏิบัติเกี่ยวกับทักษะกระบวน

การทางวิทยาศาสตร์ลักษณะเป็นปรนัยโดยเลือกตอบจาก 3 ตัวเลือก

สรุปผลการวิจัย

ผลการศึกษาในครั้งนี้พบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์แบบปฏิบัติ

การทดลองประกอบอาหารมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สูงกว่าเด็กปฐมวัย

ที่ได้รับการจัดประสบการณ์แบบปกติ ดังนั้นครูผู้สอนและผู้เกี่ยวข้องควรได้คัดเลือก

กิจกรรมนำไปใช้ให้เหมาะกับเนื้อหา   วิจัยเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น